7 วิธีควรทำเพื่อความปลอดภัยทั้งคนทำงานและสถานที่ทำงาน
สถานที่ทำงานทุกแบบ ไม่ว่าจะเป็นออฟฟิศทั่วไป, โรงงาน หรืองานที่มีความเสี่ยงหลากหลายประเภท ควรต้องมีการจัดสถานที่รวมไปถึงการสร้างกฎในการอยู่ร่วมกันอย่างชัดเจน เพื่อให้เกิดความปลอดภัยในการทำงานร่วมกันอย่างสูงสุด ดังนั้น safety equipment ทั้งส่วนบุคคลและแบบติดตั้งในที่ทำงาน จึงกลายมาเป็นอุปกรณ์สำคัญที่ช่วยทำให้งานมีความคล่องตัวมากขึ้น พร้อมสร้างความมั่นใจในการทำงาน ถ้าเป็นที่ทำงานทั่วไป safety equipment อาจจะเป็นเครื่องดับเพลิงแบบสารเคมีแห้ง, ตัวเซฟทีคัตตัดไฟ หรือสัญญาณเตือนไฟไหม้ เป็นต้น ส่วนในกลุ่มงานที่มีความเสี่ยงจะเป็นชุดเซฟตี้และอุปกรณ์ความปลอดภัยที่ได้มาตรฐานต่างๆ นอกจากต้องเตรียมเรื่องความพร้อมในอุปกรณ์เพื่อความปลอดภัยเหล่านี้แล้ว คนทำงานเองก็ควรรู้ 7 วิธีควรทำเพื่อความปลอดภัยทั้งคนทำงานและสถานที่ทำงาน คือ
1.สถานที่ต้องสะอาดและเป็นระเบียบ
เรื่องของสถานที่ทำงานเป็นหนึ่งในเรื่องสำคัญที่อาจสร้างอันตรายได้ ถ้าไม่มีการจัดระเบียบภายในที่ทำงานให้ดี ไม่ว่าจะเป็นออฟฟิศทั่วไป, ภายในโรงงาน หรือโกดังเก็บสินค้า จำเป็นอย่างมากที่จะต้องจัดของทุกชิ้นรวมไปถึงการวางอุปกรณ์ทำงานที่เป็นระเบียบทั้งหมด จัดหมวดหมู่ชัดเจนเพื่อให้หยิบใช้ได้ง่าย ไม่วางของหรือสินค้าตรงทางเดิน และเมื่อทำงานเสร็จต้องมีการเก็บกวาดให้เรียบร้อย เพื่อเป็นการลดอันตรายที่อาจเกิดจากการวางของไม่เป็นที่และความสกปรกที่อาจพาสัตว์ไม่พึงประสงค์เข้ามาสร้างความเสียหายให้กับตัวสินค้าภายใน ทั้งยังอาจเป็นพาหะนำโรคมาหาคนทำงานอีกด้วย
2.มีระบบป้องกันที่ได้มาตรฐาน
ระบบป้องกันภายในที่ทำงาน, อุปกรณ์ความปลอดภัย และการควบคุมด้านวิศวกรรม เป็นตัวช่วยสำคัญที่จะทำให้สถานที่ทำงานที่เสี่ยงอันตรายมีความปลอดภัยมากยิ่งขึ้น ดังนั้นจึงควรเลือกผู้ติดตั้งที่น่าเชื่อถือและตัวอุปกรณ์ที่ได้มาตรฐานเท่านั้น เพื่อให้พร้อมใช้ในทุกสถานการณ์และควรมีการตรวจสอบอุปกรณ์กับระบบป้องกันภัยอยู่เสมอ เพื่อให้เกิดความมั่นใจในการใช้งานมากที่สุด
3.มีคำแนะนำในสถานที่ทำงาน
ควรมีการติดคำแนะนำสำหรับพนักงานไว้ภายในสถานที่ทำงานทุกแห่ง โดยเฉพาะจุดทำงานที่ควรมีคำแนะนำในการปฏิบัติตัว, การสวมใส่อุปกรณ์เซฟตี้ และคำเตือนต่างๆ เกี่ยวกับตัวเครื่องจักร เพื่อให้การทำงานมีความปลอดภัย ป้ายคำแนะนำจะสร้างความชัดเจนให้กับพนักงานและช่วยเตือนสติในเวลาทำงานให้ระลึกถึงความปลอดภัยอยู่เสมอ
4.มีแผนสำรองเสมอ
อุบัติเหตุและเหตุเหนือความคาดหมายอาจเกิดขึ้นได้ตลอดเวลา แม้ว่าจะหาวิธีป้องกันหรือสร้างระบบมาดีแค่ไหนก็อาจจะควบคุมสถานการณ์ไม่อยู่ จึงควรมีแผนสำรองไว้เสมอ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการเกิดเพลิงไหม้, การเกิดสารเคมีรั่วไหล หรือเกิดภัยธรรมชาติต่างๆ ดังนั้นจึงไม่ควรมีเพียงแผนรับมือเพียงแค่แผนเดียว แต่ควรมีการวางแผนเพิ่มเป็น 2 และ 3 แผนแบบครอบคลุม เมื่อเกิดปัญหาจริงจะได้ไม่หนักมากจนเกินไป
5.มีการตรวจสุขภาพประจำปี
ควรมีการจัดให้ตรวจสุขภาพของพนักงานเป็นประจำ ไม่ว่าจะเป็นประจำ 6 เดือน หรือประจำ 1 ปี เพื่อเป็นการดูแลสุขภาพพนักงานที่ต้องทำงานเสี่ยงต่อร่างกายทุกวัน ที่สำคัญคือทำให้ได้รู้ว่าภายในสถานที่ทำงานมีปัจจัยที่ทำให้เกิดอันตรายต่อชีวิตพนักงานหรือไม่ ถ้ามีก็ต้องรีบแก้ไขเพื่อไม่ให้เกิดปัญหาซ้ำ เพราะถ้าพนักงานมีปัญหาสุขภาพก็ย่อมส่งผลเสียต่อตัวงานด้วยเช่นกัน
6.ใช้อุปกรณ์ความปลอดภัยที่มีคุณภาพ
อุปกรณ์ความปลอดภัยทุกแบบที่มีอยู่ภายในสถานที่ทำงานและชุดเซฟตี้ส่วนบุคคล ต้องเป็นแบบที่มีคุณภาพ ต้องให้การใช้งานที่ดี ไม่เสียหายง่าย ให้การใช้งานที่ยาวนาน พร้อมที่จะลดความเสียหายต่อทั้งตัวคนทำงานและสถานที่ได้เป็นอย่างดี ส่วนนี้ถือว่าสำคัญเช่นกันจึงไม่ควรเลือกของที่ดีแต่ราคาถูกเท่านั้น
7.อบรมด้านความปลอดภัยทุกปี
จัดให้มีการอบรมด้านความปลอดภัยในที่ทำงานแก่พนักงานเป็นประจำ พร้อมซ้อมรับมือในเรื่องต่างๆ อยู่เสมอ เช่น ซ้อมแผนหนีไฟ, ซ้อมแผนหนีภัยพิบัติจากธรรมชาติ และซ้อมแผนหนีจากอุบัติเหตุร้ายแรงต่างๆ การจัดอบรมและการซ้อมแผนหนีเหล่านี้จะช่วยให้พนักงานได้เรียนรู้วิธีการหนีจริง รู้ว่าควรต้องทำอย่างไรเมื่อเกิดเหตุ รู้สถานที่หนีที่ถูกต้อง และยังเป็นการตรวจสอบการใช้งานอุปกรณ์ความปลอดภัยต่างๆ ว่ายังใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพอยู่หรือไม่
ถ้าต้องการให้ที่ทำงานมีความปลอดภัยต่อพนักงานทุกคน ควรเตรียมความพร้อมตามทั้ง 7 วิธีนี้และเตรียม safety equipment ที่มีคุณภาพ สามารถให้การใช้งานที่ดีในทุกสถานการณ์ เพื่อให้ทุกคนในที่ทำงานได้มั่นใจในความปลอดภัยมากยิ่งขึ้น